รหัสสินค้า
รหัสสินค้ากำหนดได้ 15 ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ ไม่อนุญาติให้มีช่องว่าง (Space) และเครื่องหมาย ‘ “ ในรหัสสินค้า

 

ชื่อ (ไทย)
ชื่อสินค้าภาษาไทย

 

ชื่อ (อังกฤษ)
ชื่อสินค้าภาษาอังกฤษ

 

รูปภาพ
ไฟล์รูปภาพที่จะนำมาโหลดเข้าระบบ จะต้องมีขนาดไม่เกิน 3 Kb ภาพสินค้าจะสามารถดึงไปแสดงในโปรแกรม POS เมื่อขายสินค้า

 

หน่วยนับสินค้า
สำหรับสินค้าทั่วไป คุณสามารถกำหนดหน่วยนับสต็อกได้เป็น 2 หน่วย คือ หน่วยย่อย และ หน่วยใหญ่ เพื่อแสดงในรายงานสินค้าคงเหลือ
หน่วยย่อยคือหน่วยที่ใช้ในการทำสต็อกจริง และสำหรับหน่วยใหญ่จะเป็นหน่วยที่คำนวณจากหน่วยย่อย แสดงในรายงานสินค้าคงเหลือ เพื่อให้ง่ายต่อการดูรายงาน เช่น สายแลน มีหน่วยสต็อกย่อยเป็น เมตร และมีหน่วยใหญ่เป็น ม้วน (100 เมตร) ในการซื้อสายแลนเข้ามาเพื่อขายนั้นจะซื้อเป็นม้วน แต่เวลาขายออกจะขายทั้งม้วนและแบ่งขายเป็นเมตร ในการตัดสต็อกของระบบจะตัดเป็นเมตรเสมอ เช่น ขายออกไป 1 ม้วน จะเท่ากับขายออกไป 100 เมตร
 
ในรายงานสินค้าคงเหลือ สมมุติ สายแลน คงเหลือในสต็อก = 525 เมตร การออกรายงาน จะออกในลักษณะดังนี้
รหัสสินค้า SKU01 ชื่อ สายแลน คงเหลือ = 5 ม้วน 25 เมตร (525 เมตร)

 

หน่วยย่อย
กำหนดหน่วยย่อย ของสินค้าสำหรับทำสต็อก

 

หน่วยใหญ่
กำหนดหน่วยใหญ่ ของสินค้าสำหรับคำนวณเพื่อแสดงในรายงานสินค้าคงเหลือ หากสินค้าไม่จำเป็นต้องมีหน่วยใหญ่ คือมีเพียงหน่วยย่อย คุณสามารถปล่อยช่องนี้ให้ว่างได้ แต่หากต้องกำหนดหน่วยใหญ่คุณก็จะต้องกำหนดอัตราต่อหน่วยย่อยตามด้วย

 

อัตราต่อหน่วยย่อย
อัตราหรือหน่วยบรรจุ ต่อ หน่วยย่อย เช่น หน่วยย่อย เป็นชิ้น หน่วยใหญ่เป็น โหล อัตราต่อหน่วยย่อย ก็คือ 12

 

สินค้าขายติดลบได้
กำหนดว่าสินค้าสามารถขายติดลบได้หรือไม่ การขายติดลบ คือการยอมให้ขายสินค้าออกไปได้ถึงแม้สต็อกคงเหลือจะไม่เพียงพอ เช่น สต็อกเหลือ 2 แต่ขายออกไป 3 คงเหลือหลังจากขายเท่ากับ – 1 กรณีนี้เหมาะสำหรับกิจการที่ไม่มีเวลาบันทึกใบรับสินค้า จึงยอมให้ขายออกไปก่อนแล้วค่อยมาทำใบรับสินค้าภายหลัง จากนั้นสต็อกคงเหลือก็จะคำนวณย้อนหลังให้เอง
แต่สำหรับกิจการที่เข้มงวด หรือสินค้าที่ขายนั้นมีราคาสูงมาก ก็จะกำหนดไม่ให้ขายสินค้าที่มีจำนวนคงเหลือในสต็อกไม่เพียงพอต่อการขาย โดยจะต้องไปทำใบรับสินค้าให้เรียบร้อยแล้วก่อนแล้วจึงจะขายออกไปได้

 

สินค้าคิดภาษี (Vat)
ระบุว่าสินค้าคิดภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่

 

สินค้ามีทะเบียน/รับประกัน
ระบุว่าเป็นสินค้ามีทะเบียนรับประกัน (Serial Number) หรือไม่ ถ้ามีโปรแกรมจะแสดงหน้าสำหรับกำหนดรายละเอียดการรับประกันสินค้า และสินค้าประเภทนี้จะต้องระบุ S/N ทุกครั้งที่ทำซื้อหรือขายออก และคุณสามารถตรวจสอบภายหลังได้ว่าสินค้าแต่ละตัวซื้อจากผู้จำหน่ายรายได้ และขายให้กับลูกค้าใดออกไป

 

สินค้าที่เลิกแล้ว
ระบุว่าเป็นสินค้าที่เลิกแล้ว (Discontinued) แต่ยังคงขายได้อยู่หากยังมีสต็อกคงเหลืออยู่ แต่หากสินค้าหมดแล้ว ก็จะหยุดการขาย

 

กลุ่มบัญชี
กำหนดวิธีคำนวณต้นทุนสินค้าว่า เป็นแบบ Weight Average (ถัวเฉลี่ย) หรือ FIFO (เข้าก่อนออกก่อน)

 

ผู้จำหน่ายหลัก
ระบุผู้จำหน่ายหลักสำหรับสินค้า สำหรับนำไปออกในรายงานการขายตามผู้จำหน่าย

 

วันที่เริ่มขาย
ระบุวันที่เริ่มต้นขายสินค้า สำหรับเป็นประวัติสินค้า

 

ราคาทุนมาตรฐาน
กำหนดราคาทุนมาตรฐานของสินค้า นำไปใช้ในกรณีที่สินค้าคงเหลือติดลบในสต็อก ศึกษาเพิ่มเติมได้ในหัวข้อ วิธีคำนวณต้นทุนในสต็อกการ์ด

 

บาร์โค้ด/ราคา
ในการซื้อและขายสินค้าโปรแกรมจะอิงที่บาร์โค้ดสินค้าเป็นหลัก ไม่ใช่รหัสสินค้า ฉะนั้นการตั้งราคาสินค้าและหน่วยนับสำหรับซื้อและขายสินค้า จะตั้งแยกตามบาร์โค้ด  การที่สินค้า 1 ตัว สามารถมีได้หลายบาร์โค้ด เนื่องจากเหตุผลดังนี้

1.มีการขายสินค้าหลายหน่วย เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขายเป็นซอง เป็นโหล (1x12)

2.มีการซื้อเข้าด้วยหน่วยใหญ่ที่ไม่ใช่หน่วยสำหรับการขาย เช่น ซื้อเป็นลัง แต่ขายเป็นซอง จึงต้องมีบาร์โค้ดสำหรับการซื้อเข้าแยกต่างหาก

3.ผู้จำหน่ายมีการเปลี่ยนบาร์โค้ดอยู่บ่อย ๆ ทำให้สินค้าตัวเดียวกันแต่มีหลายบาร์โค้ดกองรวมกันอยู่ในร้าน เช่น เดิมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีบาร์โค้ด 8854864587456 ปัจจุบันผู้จำหน่ายเปลี่ยนบาร์โค้ดเป็น 8854876485123 ในขณะที่บาร์โค้ดเดิมนั้นยังมีของเหลืออยู่ในร้าน ฉะนั้นจะเห็นว่าปัจจุบัน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่วางขายในร้านประกอบด้วยสองบาร์โค้ด

 

คอลัมน์ หลัก
กรณีสินค้าที่มีหลายบาร์โค้ดจะต้องระบุบาร์โค้ดที่เป็นบาร์โค้ดหลักสำหรับ ดึงบาร์โค้ดและราคาที่ 1 ไปออกในรายงานการขาย
 
คอลัมน์ บาร์โค้ด
ป้อนบาร์โค้ด

 

คอลัมน์ หน่วยนับ
หน่วยนับสินค้าของบาร์โค้ด เช่น เมื่อขายสินค้าด้วยบาร์โค้ดนี้จะหมายถึง หน่วยนับเป็นอะไร ราคาเท่าไร เป็นต้น การตัดสต็อกจะตัดตามอัตรา/หน่วยสต็อกของบาร์โค้ดนั้น ๆ

 

คอลัมน์ อัตรา/หน่วยสต็อก
ระบุอัตรา/หน่วยสต็อก สำหรับนำไปทำสต็อก เมื่อซื้อหรือขายด้วยบาร์โค้ดนี้

 

คอลัมน์ ซื้อสินค้า
กำหนดว่าบาร์โค้ดนี้สามารถทำซื้อได้หรือไม่  หมายถึง สามารถทำบิลซื้อด้วยบาร์โค้ดนี้ได้หรือไม่

 

คอลัมน์ ขายสินค้า
กำหนดว่าบาร์โค้ดนี้สามารถทำขายซื้อได้หรือไม่ หมายถึง สามารถขายสินค้าด้วยบาร์โค้ดนี้ได้หรือไม่

 

คอลัมน์ ราคาพิเศษ
กำหนดว่าบาร์โค้ดนี้ เป็นสินค้าราคาพิเศษหรือไม่ สินค้าราคาพิเศษ จะไม่สามารถนำไปให้ส่วนลดท้ายบิลในโปรแกรม POS ได้อีก

 

คอลัมน์ ป้อนราคาเมื่อขาย
กำหนดว่าบาร์โค้ดนี้ จะให้แสดงหน้าต่างให้ป้อนราคาทุนทุกครั้งที่ขายในโปรแกรม POS หรือไม่ โดยมากจะใช้กับสินค้าฝากขายที่มีราคาไม่แน่นอน

 

ราคาสินค้า 10 ราคา
คุณสามารถป้อนราคาสินค้าของแต่ละบาร์โค้ดทางด้านขวา จะเป็นราคาของบาร์โค้ดที่เลือกอยู่ทางด้านซ้าย กำหนดได้ถึง 10 ระดับราคา

 

กลุ่มสินค้า
กำหนดกลุ่มสินค้าในแต่ละรูท

 

สเปคสินค้า
ระบุรายละเอียดคุณสมบัติของสินค้า เช่น กว้าง ยาว สูง หรือ ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ ก็เป็นสเปคเครื่อง คุณสมบัติเหล่านี้จะปรากฏในใบเสนอราคาและใบกำกับสินค้าให้อัตโนมัติ

 

บันทึกช่วยจำ
ป้อนข้อความบันทึกช่วยจำ

 

ข้อความเตือน
ข้อความเตือนอัตโนมัติ Alert Message เมื่อมีการขายหรือซื้อสินค้าตัวนี้

 

ระบบพอส
กำหนดชื่อสินค้าย่อ สำหรับพิมพ์บนใบเสร็จอย่างย่อ